วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

80ปีวันรัฐธรรมนูญ

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2555 เวลา 16:00 น.

       วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ เรียกให้ถูกก็ต้องเรียกว่าวันที่ระลึกแห่งการพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก ทางราชการประกาศเป็นวันสำคัญของชาติมาตั้งแต่ พ.ศ.2475-2476 และได้เป็นวันหยุดราชการประจำปีอีกด้วย ยิ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์เลยได้หยุดยาวตั้งแต่เสาร์ที่ 8 ยันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม อาจมีบ้างที่เห็นว่าไหน ๆ ก็หยุดราชการมาตั้งแต่วันพุธที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้ว จะลาหยุดวันพฤหัสที่ 6 และวันศุกร์ที่ 7 อีกสองวันจะเป็นไร ทีนี้ยาวล่ะครับ!

       สมัยก่อนช่วงวันที่ 10 ธันวาคมจะมีงานรื่นเริงใหญ่ที่สวนสราญรมย์และทางการส่งเสริมให้ทุกจังหวัดจัดทั่วประเทศเหมือนงานกาชาดทุกวันนี้เรียกว่างานวันรัฐธรรมนูญ ไฮไลต์อยู่ที่การประกวดนางงาม แรก ๆ เรียกว่านางสาวสยาม พอเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นไทยแล้วก็เรียกว่านางสาวไทย นางสาวสยามคนแรกชื่อกันยา เทียนสว่าง! วันรัฐธรรมนูญมีครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 เรื่องเดิมมีอยู่ว่าในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คณะราษฎรได้ถวายร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามให้รัชกาลที่ 7 ทรงลงพระปรมาภิไธย ทรงพิจารณาแล้วได้ทรงเติมคำว่า “ชั่วคราว” ต่อท้ายเพื่อให้รู้ว่าเป็นฉบับชั่วคราวใช้แก้ขัดไปพลางก่อน และได้ลงพระปรมาภิไธยพระราชทานกลับลงมาในวันที่ 27 มิถุนายน 2475 ว่าไปแล้วนี่เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกเชียวล่ะ แต่ที่ไม่เรียกรัฐธรรมนูญเพราะตอนนั้นยังไม่รู้จักคำนี้ อีกทั้งเราไปถือว่าเป็นฉบับชั่วคราว ประกอบกับครั้งนั้นดูจะเป็นการขู่กลาย ๆ ให้ทรงยอมรับกฎหมายฉบับนี้ โดยทั่วไปจึงไม่ให้ความสำคัญมากนัก บางทีพลอยถือว่าไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับแรกด้วยซ้ำ  หลังจากนั้นก็มีการตั้งคณะกรรมการราษฎรขึ้นมาเป็นเหมือนรัฐบาล มีหัวหน้าเรียกว่าประธานกรรมการราษฎรชื่อพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (ก้อน) แล้วก็ลงมือตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คณะอนุกรรมการยอมรับฟังเสียงข้างนอกอยู่มาก แม้แต่การเสนอให้เรียกชื่อกฎหมายใหม่นี้ว่า “รัฐธรรมนูญ” ก็มาจากภายนอก อีกทั้งคณะอนุกรรมการยังรับฟังพระราชกระแสของรัชกาลที่ 7 เป็นระยะ ๆ ทุกอย่างจึงดูจะราบรื่นดี เมื่อการจัดทำและการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นลง รัฐบาลก็เตรียมจะถวายพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แต่เพื่อให้ดูขึงขังศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ขอให้เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (อยู่) เจ้าอาวาสวัดสระเกศซึ่งเป็นโหรใหญ่คำนวณฤกษ์อันเหมาะสมสำหรับการพระราชทาน ท่านให้ฤกษ์ว่าควรเป็นวันที่ 10 ธันวาคม ช่วงเช้า จึงได้มีรัฐพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคมในวันนั้น พระราชทานรัฐธรรมนูญแก่เจ้าพระยาพิชัยญาติ (ดั่น) ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นจึงประกาศให้วันที่ 10 ธันวาคมเป็นวันรัฐธรรมนูญตลอดมา แม้จะเปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาแล้วสิบกว่าหน แต่ถือว่าเป็นการใช้ชื่อรัฐธรรมนูญเป็นครั้งแรกและเป็นฉบับถาวรฉบับแรก ทั้งมีพิธีรีตองสมพระยศพระเกียรติทุกฝ่าย   ฤกษ์ 10 ธันวาคมดูจะศักดิ์สิทธิ์เอาการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้อยู่นาน 14 ปีจนถึง พ.ศ.2489 จึงยกเลิก ต่อมาในปี 2494 มีการปฏิวัติ ครั้นถึง พ.ศ.2495 ได้มีการนำฉบับนี้ย้อนกลับมาใช้อีกหนโดยแก้ไขบางมาตรา รอบสองนี้ใช้อยู่นานถึง 7 ปี รวมกับรอบแรกกลายเป็น 21 ปี ชีวิตนี้เราคงไม่เห็นรัฐธรรมนูญฉบับไหนของไทยยาวกว่านี้หรอกครับ ในระดับนานาชาติ วันที่ 10 ธันวาคมเป็นวันสิทธิมนุษยชนด้วย เพราะมีการประกาศใช้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติใน พ.ศ.2491 จึงมีการฉลองวันที่ 10 ธันวาคมในหลายประเทศ 


อ้อ! ธรรมศาสตร์เขาก็จัดงานวันธรรมศาสตร์ในวันนี้ด้วยนะครับ          ปีนี้วันรัฐธรรมนูญเวียนมาบรรจบครบ 80 ปี วันน่ะครบ 80 ปี แต่ตัวรัฐธรรมนูญฉบับนั้นไม่ได้มีอายุครบ 80 ปี บัดนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้เพราะเราขยันฉีก ขยันร่างกันจริง เบื่อก็เปลี่ยน ไม่ชอบบางมาตราก็เปลี่ยนมันทั้งฉบับ คนไม่ดีก็โทษรัฐธรรมนูญ เหมือนรำไม่ดีโทษปี่โทษกลองโทษคนฟังว่าหูไม่ถึงเอง นี่ก็ประกาศกันแล้วว่าวันนี้จะเป็นวัน “คิกออฟ” การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา แต่อย่าดับบ่อยเลยครับ กลัวจะจุดใหม่ให้ติดยาก ยิ่งมีคนอยากแช่แข็งอยู่ด้วย ทีนี้ล่ะแช่ไปแช่มากลายเป็นฟอสซิลหรือต้นไม้กลายเป็นหินหรือ “คิกเอาต์”

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555


ประโยชน์ของ รถชาลีคู่ชีพ บทที่ 1 

ใช่คะ รถชาลี ได้ยินถูกแล้ว
คงพอรู้จักกันบ้างใช่มั๊ยคะ



เรามาทำความรู้จักกับรถชาลีคันแรงและความเป็นมาของเค้ากันก่อนดีกว่านะคะ.....จะได้สนิทกันเร็ว ๆ



ชาลีเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันเล็ก ๆ มีเกียร์ระบบสามจังหวะ ไร้ทะเบียน ความเร็ว 60 กิโลเมตร/ช.ม. คันเก่งของเรา


เราเรียกเค้าว่า 
เจ้าชิ๊กกะบึ๊ม ค่ะ


เราได้เจ้าชิ๊กกะบึ้มมาตอนเราเริ่มเรียนปริญญาตรี ปี2 เทอมปลายค่ะ


ที่คิดจะซื้อมาเพราะตอนนั้น ทำงานเป็นเด็กเชียร์เบียร์อยู่ในตัวเมืองของจังหวัด ต้องเข้างาน 5 โมงเย็น ออก 4 ทุ่มทุกวัน 


เราทำพาร์ทไทม์ตอนเรียนหน่ะค่ะ เลยซื้อมาเพราะเวลากลับห้องมืด ๆ หลังเลิกงานจะได้ปลอดภัยขึ้นอีกนิด เนื่องจากช่วง 4 ทุ่มไปแล้วสาระถีหายากมาก


ตอนชิ๊กกะบึ๊มมาอยู่กับเราใหม่ ๆ ท่อดังมากค่ะ เครื่องก็แผ่วๆ อ่อนแปลก ๆ ซื้อต่อมาจากร้านซ่อมรถอีกที เค้าจอดประกาศขายไว้หน้าร้าน ได้มาในราคา 6,000 บาท





เค้าขี้น้อยใจค่ะ ว่าไรเนี๊ยะไม่ได้เลยนะคะ ชิ๊กกะบึ๊มเค้าจะงอนเอาค่ะ !!!


งอนยังไงหน่ะหรอค่ะ ???
หึ หึ .....ก็ถ้าไม่เครื่องดับ ก็ สตาร์ทไม่ติดหน่ะคะ





ตอนซื้อมาใหม่ ๆ เป็นช่วงฤดูหนาวพอดีค่ะ ความซวยมันไม่เข้าใครออกใคร <<< ประโยคนี้จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ


อย่างที่บอกหล่ะคะ
เครื่องในเจ้าชิ๊กกะบึ๊มเยินมาก ทั้งเครื่องต่ำ เร่งไม่ค่อยได้ ถ้าเร่งก็พาลจะงอนดับเอาดื้อ ๆ ท่อก็ดังยังกะรถแข่ง ขี่ไปไหนคนเค้ารู้กันหมดว่าเรามาแล้ว ก็เล่นได้ยินมาตั้งแต่ปากซอยแล้วนี่ค่ะ
อย่างอื่นจะเหลือเร๊อะ จริงมั๊ยคะ ?? 555 


บวกกับอากาศช่วงนั้นหนาวมาก คงพอรู้กันว่า ถ้าเครื่องยิ่งเย็นรถยิ่งสตาร์ทยาก เราเลิกงาน 4 ทุ่มจอดรถทิ้งไว้ตั้งแต่ 5 โมงเย็น
แม่เจ้า !!!


เลิกงานสตาร์ทอยู่ครึ่งชั่วโมงยังไม่ติดเล๊ย จนเด็กรับรถร้านที่เราทำอยู่เค้าคงสมเพชเราอ่ะคะ เค้าเลยมาช่วยเข็ญ และสตาร์ทให้จนเจ้าชิ๊กกะบึ๊มฟื้นขึ้นมาจากนิทราอีกครั้ง
อย่างน้อยเราก็ไม่ซวยมากเนอะ 55555


จากนั้นเป็นไงหน่ะหรอค่ะ ??

....เราก็คอยประคองชิ๊กกะบึ๊มให้กลับบ้านโดยปลอดภัยค่ะ ไม่แวะที่ไหนทั้งสิ้น เพราะเด๋วชิ๊กกะบึ๊มจะน้อยใจหลับอีก เด๋วจะพาลไม่ถึงบ้านเอา ก็เช้าเรามีเรียนนี่นา......


.....คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องที่พาเจ้าชิ๊กกะบึ๊มคันแรงคู่ชีพ ไปหาพี่ช่างซ่อมรถให้ฟังนะค๊า 


วันนี้ดูรูปตัวอย่างของชิ๊กกะบึ๊มไปพลาง ๆ กันก่อนน๊ะจ๊ะ